ภาพรวมของการใช้ IoT และ AI สำหรับวิเคราะห์พฤติกรรมไก่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวังสุขภาพไก่ในฟาร์ม

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกด้านการผลิตและส่งออกไก่เนื้อ โดยเราอยู่ในอันดับที่ 7 ของโลกสำหรับการผลิตไก่เนื้อ และอันดับ 4 สำหรับการส่งออก ต่อจากสหรัฐอเมริกา โปแลนด์ และเนเธอร์แลนด์ การรักษาความสามารถในการแข่งขันทั้งในระดับประเทศและระดับสากลเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผู้ประกอบการฟาร์มไก่ เนื่องจากต้องปฏิบัติตามกฎหมายทั้งในประเทศและมาตรฐานสากล

การดูแลและประเมินสุขภาพของไก่จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง การติดตามสุขภาพประจำวัน การสังเกตความผิดปกติในโรงเรือน และการจัดการซากสัตว์อย่างเหมาะสมมีผลโดยตรงต่อผลผลิตและความสามารถในการทำกำไรในอุตสาหกรรมสัตว์ปีก นอกจากนี้ ประเทศไทยยังต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคในสัตว์ปีก เช่น โรคไข้หวัดนก (Bird flu H5N1) ซึ่งมีการระบาดใน 7 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ เวียดนาม อินโดนีเซีย และเนปาล การเฝ้าระวังและป้องกันโรคจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

ปัจจุบันเรามีเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น IoT (Internet of Things) ที่สามารถช่วยผู้ประกอบการฟาร์มไก่ในการตรวจสอบสุขภาพและพฤติกรรมของไก่ได้อย่างแม่นยำ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์วิทัศน์ (Computer Vision) ร่วมกับแบบจำลองวิเคราะห์พฤติกรรม เช่น การเดิน การรับประทานอาหาร และการนอน สามารถช่วยระบุความผิดปกติของไก่ในโรงเรือนได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น การลดลงของพฤติกรรมบางอย่างหรือการนอนมากเกินไป อาจเป็นสัญญาณของการเจ็บป่วย

เทคโนโลยีนี้ยังช่วยลดภาระของผู้ประกอบการโดยการแจ้งเตือนทันทีเมื่อมีพฤติกรรมผิดปกติ และเก็บสถิติข้อมูลสุขภาพไก่เพื่อการวิเคราะห์และควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ประกอบการสามารถติดตามข้อมูลเหล่านี้แบบเรียลไทม์ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน ซึ่งช่วยให้สามารถจัดการปัญหาได้อย่างทันท่วงทีและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก

การใช้เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ฟาร์มไก่สามารถรักษาความสุขภาพของสัตว์ได้อย่างดี แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและลดความเสี่ยงจากโรคระบาดที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้น การนำเทคโนโลยี IoT มาใช้ในฟาร์มไก่จึงเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดสำหรับการพัฒนาและรักษาความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้